Cloud Computing
Cloud Computing หรือการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ
เป็นลักษณะการทำงานโดยใช้ทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่มากมายบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
เช่น พื้นที่เก็บข้อมูล แพลตฟอร์มทางธุรกิจ แอปพลิเคชัน พาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์
การตลาดออนไลน์ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์สามารถเลือกใช้งานได้ผ่านผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต(Internet Service Provider : ISP) ที่ให้บริการใดบริการหนึ่งกับผู้ใช้
โดยผู้ให้บริการจะแบ่งปันทรัพยากร ให้กับผู้ต้องการใช้งานนั้น
และจ่ายค่าบริการตามการใช้งานจริง หรือให้เข้าใจง่ายๆ คือระบบโปรแกรม คอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
และรับข้อมูลแสดงผลผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งเดิมการประมวลผลบนเครื่องคอมพิวเตอร์
ผู้ใช้ต้องติดตั้งโปรแกรมและเปิดใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การใช้งานโปรแกรม
Microsoft Office (Word, Excel, PowerPoint ฯลฯ) แต่ Cloud
Computing จะเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ตามแต่ผู้ให้บริการจะเตรียมไว้ให้ เช่น Google Docs, Office 365 โดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
Cloud computing เน้นการขยายตัวได้ อย่างยืดหยุ่น สามารถที่จะปรับขนาดได้ตาม ความต้องการของผู้ใช้
และมีการจัดสรรทรัพยากร โดยเน้นการทำงานระยะไกลอย่างง่าย ที่ใช้ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นโครงสร้างพื้นฐาน
ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเชิงเทคนิคสำหรับ พื้นฐานการทำงานนั้น
ส่วนใหญ่จะให้บริการใน ลักษณะของเว็บแอปพลิเคชันโดยให้ผู้ใช้ทำงานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ขณะเดียวกันซอฟต์แวร์และข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ ผู้ให้บริการ
รูปแบบการให้บริการของ
Cloud Computing
1. Software as a Service: SaaS เป็นการให้บริการด้านซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันผ่านทางอินเทอร์เน็ต
คล้ายกับการเช่าใช้คิดค่าบริการตามลักษณะการใช้งาน (Pay as you go) เช่น ตามจำนวนผู้ใช้งาน ระยะเวลาการใช้งานทำให้ผู้ใช้บริการไม่จำาเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของฮาร์ดแวร์และค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบ
เพราะผู้ให้บริการจะเป็นผู้ดูแลระบบทั้งหมดให้ ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากที่ไหนก็ได้
โดยไม่สนใจว่าซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันเหล่านี้ติดตั้งอยู่ที่ไหน
ประมวลผลอยู่บนเซิร์ฟเวอร์อะไร
2. Platform as a
Service : PaaS เป็นการให้บริการด้านแพลตฟอร์ม สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันโดยผู้ให้บริการจะจัดเตรียมสิ่งที่จ
าเป็นต้องใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน เช่น เว็บ
แอปพลิเคชัน เซิร์ฟเวอร์ที่จัดเก็บฐานข้อมูล ระบบประมวลผลกลางสำหรับองค์กรขนาดใหญ่และ
Middleware อื่นๆ โดยบริการทั้งหมดท างานภายใต้ระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายและสามารถเรียกใช้งานได้ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน
3. Infrastructure
as a Service: IaaS เป็นการให้บริการเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน เช่น
เซิร์ฟเวอร์ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้และระบบจัดเก็บข้อมูล ทำงานอยู่บนระบบเสมือน (Virtualization)
เพื่อรองรับการใช้งานซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน
4. Storage as a Service:
SaaS เป็นการให้บริการระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ไม่จ ากัด
รองรับการสืบค้นและการจัดการข้อมูลขั้นสูง
5. Composite Service:
CaaS เป็นการให้บริการส่วนทำหน้าที่รวมโปรแกรมประยุกต์หลายโปรแกรม
หรือจัดลำดับการ เชื่อมโยงแบบกระแสงานข้ามเครือข่าย รวมถึงการจัดการด้านความปลอดภัย
6. Anything as a Service:
XaaS นี้เป็นคำทั่วไปซึ่งหมายถึงการให้บริการใด ๆ
ที่สามารถใช้ได้เป็นบริการคลาวด์เปิดการใช้งานผ่านทางอินเทอร์เน็ต บางครั้งจะเรียกว่า
'as-a-Service ทุกอย่าง ซึ่งจะรวมถึง SaaS, DaaS, PaaS และ IaaS ฯลฯ.
ประเภทของ Cloud Computing
1. Private Cloud คือ ระบบที่ทำงานอยู่บน Cloud และบริหารจัดการโดยบริษัทหรือองค์กร
เพื่อการใช้งานภายในองค์กรเท่านั้น ผู้ให้บริการและผู้ใช้สามารถควบคุมและปรับปรุงระบบความปลอดภัยได้ด้วยตนเอง
2. Public Cloudคือ ระบบที่ทำงานอยู่บน Cloud แบบสาธารณะที่ดูแลจัดการโดยผู้ให้บริการภายนอกผ่านอินเทอร์เน็ต
ผู้ใช้จะมีสิทธิในการควบคุมที่จำกัดขึ้นอยู่กับการมอบสิทธิของผู้ให้บริการ PublicCloud มีทั้งบริการที่เสียค่าใช้จ่าย เช่น Windows Azure,SQL Azure และบริการฟรี เช่น Windows Live
3. Community Cloudคื อ ระบบที่สร้างขึ้นมาระหว่างองค์กรเป็นเครือข่ายสังคมเฉพาะกลุ่มที่มีความสนใจหรือต้องทำงานร่วมกัน
สามารถเข้าใช้งานได้ เพื่อใช้เป็นมาตรฐาน หรือใช้ในการแก้ไขปัญหา
4. Hybrid Cloud คือ ระบบที่ผสมผสานระหว่าง Private Cloud และPublic Cloud ทำให้สามารถทำงานเชื่อมต่อกันได้
ผู้ใช้สามารถขยายศูนย์ข้อมูลไปยัง Public Cloud เพื่อการใช้งานเฉพาะอย่าง
และยังกลับมาใช้ Private Cloud ได้เมื่อต้องการเช่นกัน
ข้อดีของ Cloud Computing
1. ลดต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษาเนื่องจากค่าบริการได้รวมค่าใช้จ่ายตามที่ใช้งานจริง
เช่น ค่าจ้างพนักงานค่าซ่อมแซม ค่าลิขสิทธิ์ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
ค่าอัพเกรด และค่าเช่าคู่สาย
2. ลดความเสี่ยงจากการเริ่มต้น หรือการทดลองโครงการ
3. มีความยืดหยุ่นในการเพิ่มหรือลดระบบตามความต้องการ
4. ได้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพ มีระบบสำรองข้อมูลที่ดี
มีเครือข่ายความเร็วสูง
5. มีผู้เชี่ยวชาญดูแลระบบและพร้อมให้บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
ข้อเสียของ Cloud Computing
1. เนื่องจากเป็นการใช้ทรัพยากรที่มาจากหลายที่หลายแห่งทำให้อาจมีปัญหาในเรื่องของความต่อเนื่องและความเร็วในการเข้าถึงทรัพยากรมากกว่าการใช้บริการแม่ข่ายที่อยู่ภายในองค์กร
2. ยังไม่มีการรับประกันในการทำงานอย่างต่อเนื่องของระบบและความปลอดภัยของข้อมูล
3. แพลตฟอร์มยังไม่มีมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้มีข้อจำกัดสำหรับตัวเลือกในการพัฒนาหรือติดตั้งระบบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น