Carbon Footprint
นิยาม
คาร์บอน
ฟุตพริ้นท์ เป็นการวัดประมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) และแก๊สเรือนกระจกอื่น ๆ
ที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมของมนุษย์หรือที่ปล่อยออกมาทั้งหมดจากวงจรกระบวนการผลิตสินค้าหรือบริการ
คำว่า
"วงจร"
ในนิยามของรอยเท้าคาร์บอนนี้จะคิดจากสาเหตุที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่มีผลต่อการปลดปล่อยคาร์บอนออกมา
หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ จะต้องนับทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการปล่อยทั้งทางตรง (on-site,
internal) และทางอ้อม (off-site, external, embodied,
upstream, downstream)
คาร์บอน
ฟุตพริ้นท์ก็คือปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (นิยมใช้หน่วยกิโลกรัมหรือตัน)
ซึ่งเป็นแก๊สที่ส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนเช่นเดียวกับแก๊สเรือนกระจกชนิดอื่นๆ
(สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งรัฐสภาสหราชอาณาจักร (POST),
2006) รอยเท้าคาร์บอนยังสามารถคำนวณได้จากการใช้วิธีดูวงจรการผลิต (Life
Cycle Assessment) หรือดูจากปริมาณแก๊สที่ปล่อยออกมาจากพลังงานเชื้อเพลิง
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองกรณีนี้ก็สามารถใช้วัดปริมาณที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ได้ด้วย
นอกจากปริมาณที่ใช้พลังงานจะมีความสำคัญแล้ว
ที่มาของพลังงานเหล่านั้นก็มีความสำคัญต่อการคำนวณเช่นกัน (ตัวอย่างเช่นว่า
พลังงานเหล่านั้นมาจากเชื้อเพลิงหรือมาจากแหล่งพลังงานทดแทน)
คำนิยามอื่นๆของคาร์บอน
ฟุตพริ้นท์คือ ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดที่มาจากการกระทำของมนุษย์แต่ละคนในระยะเวลา
1 ปี (ซึ่งรวมถึงการปล่อยออกมาผ่านการใช้พลังงานด้วย)
นิยามนี้ให้ความสำคัญเรื่องของการคำนวณปริมาณคาร์บอนของแต่ละบุคคล
ซึ่งมาจากแนวความคิดที่ว่ารอยเท้านี้เป็นสิ่งที่มาจากการกระทำของมนุษย์ทกุๆคนรวมกัน
รอยเท้าคาร์บอนอาจจะพิจารณาเฉพาะการปล่อยโดยตรงอย่างเดียว
(คำนวณจากปริมาณพลังงานที่ใช้ในครัวเรือนและการขนส่ง รวมไปถึงการเดินทางด้วยรถยนต์
เครื่องบิน รถไฟ หรือการขนส่งสาธารณะอื่นด้วย)
หรืออาจจะรวมเอาการการปล่อยทางอ้อมไว้ด้วยก็ได้
(รวมปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นผลมาจากสินค้าและบริการที่บริโภคในแต่ละวัน)
การคำนวณจากล่างขึ้นบนจะให้ผลรวมเป็นปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่แต่ละคนปล่อยออกมาจากกิจกรรมของตัวเอง
ส่วนการคำนวณจากบนลงล่างจะให้ผลรวมเป็นปริมาณที่ประเทศนั้นๆปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาทั้งหมด
และสามารถนำไปหารเป็นปริมาณเฉลี่ยที่ครัวเรือนหนึ่งปล่อยออกมา
ปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้มาอย่างไร
ปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้จากการวัดหรือการคำนวณหาปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้น
ทั้งหมดในหน่วยกิโลกรัมหรือตัน ของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าการวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
จะต้องทำการพิจารณาจากกิจกรรม 2 ส่วนหลัก คือ
1. การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ทางตรง
(PRIMARY FOOTPRINT)
เป็นการคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตสินค้านั้น
ๆ โดยตรง เช่น
การใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการผลิตและการขนส่งทั้งโดยรถบรรทุก ทางเรือ
และทางอากาศ
2. การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ทางอ้อม
(SECONDARY FOOTPRINT)
เป็นการคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการใช้สินค้าตลอดจนการจัดการซากสินค้าหลังการใช้งาน
ดังตัวอย่างแสดงค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ของผลิตภัณฑ์มันฝรั่งทอดกรอบจากบริษัท Walkers
Snacks ซึ่งพบว่ามีจำนวนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 80 กรัม
ที่มา
https://th.wikipedia.org/wiki/รอยเท้าคาร์บอน
http://www.thaitextile.org/index.php/blog/2016/05/ebook_Envo_03
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น