Packet Switching
Packet
Switching คือเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการส่งข้อมูล โดยการแบ่งข้อมูลออกเป็นหลาย ๆ packet เพื่อให้มีขนาดเล็กลง
แล้วจึงกระจายกันออกไปผ่านเครือข่ายในเส้นทางต่าง ๆ ด้วยความเร็วที่ต่างกัน เพราะ Packet Switching จะทำการหาเส้นทางที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางให้กับแต่ละ
packet หากมี packet ใดผิดพลาดหรือไม่สามารถส่งต่อได้
ระบบก็จะทำการส่ง packet ดังกล่าวให้ใหม่ทันที
และเมื่อข้อมูลทั้งหมดไปถึงผู้รับแล้ว
คอมพิวเตอร์ที่เครื่องปลายทางจะจัดลำดับข้อมูลจาก packet
ที่ได้รับให้ถูกต้อง
หลักการทำงาน
1) เมื่อ สถานี A ต้องการส่งข้อมูลให้กับสถานีB จะมีการแบ่งข้อมูลออกเป็น Packet ย่อยก่อนจะถูก
ส่งออกไป
2) ส่งข้อมูลโดยใช้ชุมสาย PSE (Packet switching exchange) ควบคุมการรับส่ง
3) ทำ Error control หรือ Flow Control ที่ PSE
4) ด้านรับและด้านส่งมีอัตราความเร็วที่ไม่เท่ากันได้
5) ใช้เทคนิค Store - and -
Forward ในการส่งข้อมูล ผ่าน PSE
ข้อดี
- Flexibility โครงข่ายดังกล่าวนี้ทำให้ใช้งานพร้อมกันหลาย ๆ
ระบบได้ โดยงานประยุกต์แต่ละระบบไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แต่ใช้ผ่านชุมสายเดียวกัน
- Robustness มีความแข็งแกร่ง
ถ้าเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเสียหายก็สามารถใช้เส้นทางอื่นได้ อุปกรณ์ต้นทางกับปลายทาง
สามารถส่งด้วยความเร็วที่ต่างกันได้เพราะชุมสายจะเป็นผู้แปลงสัญญาณ
ให้ความเร็วเข้ากันได้
- Responsiveness มีการรับประกันความถูกต้องของข้อมูลที่รับส่งทำให้ระบบมีความเชื่อถือสูง
สามารถใช้ในระบบที่โต้ตอบด้วยความเร็วได้ ตัว IMP สามารถที่จะทำงานเพิ่มเติมบางอย่างได้
เช่น การตรวจสอบความ ผิดพลาดก่อนที่จะส่งต่อไป
หรืออาจทำการเปลี่ยนรหัสก่อนก็ได้
ข้อเสีย
-บางครั้งถ้ามีปริมาณPacket จำนวนมากเข้ามาพร้อมกันจะทำให้
IMPทำงานไม่ทัน อาจทำให้มีบางPacket สูญหายไปได้
- มี delay เกิดขึ้นในระหว่างที่ส่งข้อมูล = ความยาวของ package
/ ขนาดของ overhead datarate ขนาดของ package มีขนาดไม่แน่นอน
-Package แต่ละ package อาจวิ่งไปคนละเส้นทางได้
แต่ละเส้นทางจะมี delay ไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหา package
ที่ส่งมาที่หลังมาถึงก่อน ฝ่ายรับต้องมีวิธีจัดการกับ package
ที่ยุ่งยากขึ้น
-ถ้ามี delay มากจะเกิดความแออัดในเครือข่าย
- มี overhead เกิดขึ้นในการส่งข้อมูล โดย overhead ที่เกิดขึ้นคือที่อยู่ของปลายทาง, sequence ซึ่งทำให้ส่งข้อมูลได้น้อย
ทำให้ประสิทธิภาพในการส่งลดลง
ประโยชน์ของ Packet
Switching
ประโยชน์ของ Packet Switching คือ มีความผิดพลาดในการรับส่งข้อมูลน้อยมาก
สามารถจัดการแก้ไขปัญหาในเรื่องของความคับคั่งของการจราจรในเครือข่ายได้
และสามารถแบ่งปันเครือข่ายให้กับผู้ใช้จำนวนมาก ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำ
ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยี Packet
Switching มาใช้กับเครื่อง ATM และระบบ GPRS บนโทรศัพท์มือถือ
Circuit switching
Circuit
switching เทคนิคในการสื่อสารข้อมูลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง
เมื่อมีการเชื่อมต่อกันแล้วจะติดต่อกันได้ตลอดเวลา ผู้อื่นจะแทรกเข้ามาไม่ได้เลย
จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะปลดวงจรออก ตัวอย่างง่าย ๆ เช่นการติดต่อทางสายโทรศัพท์
เมื่อเริ่มพูดกันได้แล้ว คนอื่นจะต่อสายแทรกเข้ามาไม่ได้ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะวางหูลง
(ปลดวงจร)
หลักการทำงาน
1) เมื่อสถานีA ต้องการส่งข้อมูลให้กับ สถานีB จะต้องมีการสร้างเส้นทางเสียก่อน
โดยที่ฝั่งที่รับข้อมูลจะต้องตอบว่าพร้อมรับข่าวสาร (Establishment/ Connection)
2) เมื่อสร้างเส้นทางการส่งข้อมูลเรียบร้อย
ตลอดเวลาของการสื่อสารจะใช้เส้นทางเดิมตลอด
และไม่มีบุคคลอื่นมาใช้เส้นทาง
3) มีอัตราความเร็วในการส่งเท่ากันทั้งด้านรับและด้านส่ง
4) มีการทำ Error Control และ Flow Control ทุกๆ
ชุมสาย
5) ในขณะทำการส่งข้อมูล
ข้อมูลจะถูกส่งด้วยความเร็วคงที่ และไม่มีการหน่วงเวลา(Delay)
6) เมื่อส่งข้อมูลเสร็จจะยกเลิกเส้นทางที่ได้เชื่อมต่อขึ้นมาเพื่อให้เครื่องอื่นได้ใช้เส้นทางได้
ข้อดี
- ปริมาณในการส่งข้อมูลได้ อัตราการส่งข้อมูล
ความเร็วในการส่งข้อมูลจะคงที่ อัตราเดิม
- Delay ที่เกิดขึ้นจะเรียกว่า propagation delay คือเวลาที่ข้อมูลวิ่งอยู่ในสายสัญญาณ –
เร็วเท่าแสง
-
Delay ที่ node คือเวลาที่ข้อมูลวิ่งระหว่าง
node อาจเป็น delay ที่เกิดเนื่องจากการประมวลผลอะไรบางอย่าง
ถือว่าน้อยมากจนถือว่าไม่สำคัญ เพราะว่ามันแทบจะไม่เกิด
ข้อเสีย
-บางครั้งถ้ามีปริมาณPacket จำนวนมากเข้ามาพร้อมกันจะทำให้ IMPทำงานไม่ทัน อาจทำให้มีบางPacket สูญหายไปได้
- มี delay เกิดขึ้นในระหว่างที่ส่งข้อมูล = ความยาวของ package / ขนาดของ overhead
datarate ขนาดของ package มีขนาดไม่แน่นอน
-Package แต่ละ package อาจวิ่งไปคนละเส้นทางได้ แต่ละเส้นทางจะมี delay ไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหา package ที่ส่งมาที่หลังมาถึงก่อน
ฝ่ายรับต้องมีวิธีจัดการกับ package ที่ยุ่งยากขึ้น
-ถ้ามี delay มากจะเกิดความแออัดในเครือข่าย
- มี overhead เกิดขึ้นในการส่งข้อมูล
โดย overhead ที่เกิดขึ้นคือที่อยู่ของปลายทาง,
sequence ซึ่งทำให้ส่งข้อมูลได้น้อย
ทำให้ประสิทธิภาพในการส่งลดลง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น